10 อย่างที่เราควรคิด เมื่อชีวิตถดถอย

[Jessicas]

1.This too shall pass สักครู่มันก็จะผ่านไป

ถ้าเราเป็นชาวพุทธ เราก็คงรู้จักดีกับคำสั่งสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ รวมทั้งดับไป

ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ใจ มันก็จะไม่อยู่กับเราตลอดกาล เดี๋ยวมันก็จะพ้นไป เพียงเข้าใจถึงปกติข้อนี้


2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ


ตอนที่พวกเราจมอยู่กับความทุกข์ทรมาน เราก็ชอบจุดโฟกัสอยู่กับปัญหา กระทั่งลืมมองดูถึงสิ่งดีๆเยอะแยะที่เกิดขึ้นในทุกวัน

ให้ทดลองใช้แนวทาง gratitude journey มองนะคะ ทดลองเขียนขอบพระคุณ​หรือเขียนสิ่งที่ดีในแต่ละวันดูแล้วพวกเราจะพบว่า

อันที่จริงแล้ว ในชีวิตเราก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นตั้งล้นหลาม กล้วยๆเลยเป็น เราตื่นขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงสมบูรณ์

พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา รวมทั้งสร้างประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน เป็นต้น

3.I have some control มีเรื่องที่ฉันสามารถควบคุมได้

เมื่อกำเนิดปัญหาขึ้นกับเรา มันก็จะดูราวกับว่าพวกเราจัดแจงอะไรกับมันไม่ได้สักอย่ าง แต่ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเราจัดการได้ ก็คือตัวเรา


ความนึกคิดเรา กระบวนการเลือกสนองตอบของเรา จงมีสติสัมปชัญญะ และก็ใช้สติปัญญาสำหรับเพื่อการจัดการกับปัญหา


ที่สำคัญจำไว้ว่า ความสบายหรือความทุกข์ เกิดที่หัวใจของเราเอง ไม่ใช่บุคคลอื่นเลย

4.I can ask for helpฉันขอร้องได้

ไม่แปลกเลยถ้าเราจะวิงวอนเมื่อเราต้องการมัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราควรจะพย าย ามขจัดปัญหาด้วยตัวเราเองซะก่อน แต่

เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การเรียกร้องจากบุคคลอื่นก็ไม่ใช่เรื่องไม่ถูก

โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวของเรา คนที่รักเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือพวกเราเสมอ คุณมิได้อยู่ตามลำพังบนโลกใบนี้นะคะ

5.Much of this won't matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีด้านหน้ามันก็จะไม่มีความจำเป็นอะไรอีกต่อไป

นึกถึงตอนพวกเราเป็นเด็กสิค่ะ ปัญหาอันใหญ่หลวงของพวกเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน

พวกเรารู้สึกเครียดเสมือนโลกจะถล่มทลายมากๆแต่ว่าเพียงพอพวกเราโตขึ้น พวกเรามองย้อนกลับไป

เราก็หัวเราะให้หัวข้อนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้เรา กล้าแกร่ง และเติบโตขึ้น

เมื่อคุณผ่านมันไปได้ ประเด็นนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เปรียบเสมือนเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงเท่านั้น

6.I can handle this ฉันจัดแจงมันได้

ไม่มีผู้ใดจะมั่นอกมั่นใจในตัวเรา ถ้าเราไม่มั่นใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีผู้ใดจะช่วยพวกเราได้ตลอด ถ้าเกิดเราไม่ให้ความช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดปัญหา

อะไรขึ้นในชีวิต ต้องมีสติ แล้วให้กำลังใจกับตัวเองว่า ฉันจะจัดแจงมันได้


ถึงแม้ว่าในเวลานั้นพวกเราจะรู้สึกไม่ดีเพียงแค่ไหน ก็ต้องจดจำไว้ว่า เราจะผ่านมันไปได้


7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะมีต้นเหตุจากเหตุนี้

เหรียญยังมีสองด้าน เหมือนๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของเราที่มีมากมายดูให้เลือกมองในวันที่พวกเราเจอปัญหา

ดังเช่น ผู้ที่เรารักรวมทั้งทุ่มเททุกๆสิ่งทุกๆอย่างทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งพวกเราไป นั่นบางทีอาจเป็นบทเรียนรวมทั้งบททดสอบที่สำคัญ

ที่ทำให้พวกเรากลับมารู้จักรักตนเอง และก็เห็นค่าของตนมากยิ่งขึ้น เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวลาไปกับความทุกข์ใจ

ราวกับก่อนหน้าที่ผ่านมา และผลที่ได้ก็คือ ชีวิตพวกเราดียิ่งขึ้น ปรับปรุงไปตามที่เราได้คาดหมายไว้ ด้วยความสามารถของเราเอง ฯลฯ ควรมองหาข้อดีให้เจอ

8.I can accept what's out of my control ฉันสามารถเห็นด้วยในสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของฉันได้

ในชีวิตจริงมีต้นสายปลายเหตุจำนวนมากที่พวกเราไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ ยิ่งพวกเราอย ากควบคุมมันเท่าไร อย ากไปบังคับมันเยอะแค่ไหน พวกเรายิ่งเป็นทุกข์

กระบวนการทำหัวใจสารภาพความจริงข้อนี้ให้ได้ รวมทั้งปล่อยวาง เอาพลังกาย กำลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่เราควบคุมได้ นั่นเป็น ตัวเราเองดียิ่งกว่า

9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต

บางคราวการย้อนไปมองดูการบรรลุเป้าหมายก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ช่วยเราได้ ความมุ่งมั่น ความพย าย าม

หรือเรื่องราวย ากลำบากก่อนหน้านี้แล้วในอดีตกาล พวกเรายังเคยผ่านมันมาได้

และก็นี่ก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งบททดสอบที่พวกเราก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน

10.I need to take care of myself ฉันต้องดูแลตัวเอง

ไม่มีผู้ใดจะรักพวกเราได้มากเท่ากับเรารักตนเองค่ะ เพราะฉะนั้น จงดูแลสุขภาพทางกาย สุขภาพจิตใจของเราให้ดี

ในชีวิตนี้มีเรื่องมีราวราวอีกมากมายที่รอพวกเราอยู่ อย่ าหยุดตนเอง เพียงแค่ปัญหาชั่วคราวในวันนี้ สู้ต่อไปนะคะ
ชีวิตตกต่ำ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13250/
คำค้นหา : ข้อคิด