7 แนวทางสอนลูกให้เชื่อฟังบิดามารดาและไม่ต้านทานเมื่อลูกเริ่มโต

[Cindy700]

ยิ่งลูกโตขึ้น การที่พวกเราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เกิดเรื่องย ากมาก เพราะเหตุว่าลูกเริ่ม

มีความคิดเป็นของตนเอง บางเวลาก็พอใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากยิ่งกว่า


บางทีลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่อยากได้สักเท่าไรนัก


เพราะฉะนั้นจึงใช้แนวทางการทำหูทวนลม เฉยเมยต่อคำบอกเล่าของพ่อแม่ และมันบางทีอาจนำมาสู่ การมีปัญหากันได้

1. กล่าวหาอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง

ถ้าลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางทีอาจเกิดจากกำลังโก รธ เสียใจ

หรืออยากที่จะให้พ่อแม่เอาใจ สิ่งที่ควรจะทำหมายถึงคุยแล้วก็ หาคำตอบ ว่าเพราะอะไรเพราะเหตุไร

ลูกไม่เชื่อฟังและบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีพ่อแม่อยู่ด้านข้างเสมอนะ

รวมทั้งทั้งนี้ควรสังเกตทัศนคติวิธีคิดด้วย รวมทั้งการพูดของลูก ก็เพื่อรู้เรื่องลูกมากขึ้นด้วยนั่นเอง

2. สอนด้วยการ ใช้วิธีแบบเข้าใจง่ายๆ

เพราะว่าเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆพร้อมกันไม่รู้เรื่อง สิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็น

ใช้เทคนิคสอนเขา ให้จำง่ายดายมากยิ่งขึ้น ดังเช่น มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ว่ากล่าว หรือ กล่าวให้ตื่นเต้น


ได้แก่ วันนี้ทำอะไรที่สถานศึกษาบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม เพราะทำให้ลูก


ไม่อย ากทำต าม อย่างเช่น ห้ ามดื้อ ก็ควรจะเปลี่ยนเป็น แม่ชอบลูก ตอนที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยจ๊ะ

ยิ่งไปกว่านี้ บิดามารดาบางทีอาจแปลงมาใช้การให้ค่ะแน น เพื่อลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังมากเพิ่มขึ้นก็ได้นะ

3. สอนด้วยคำพูด สายตาที่ความรัก

เมื่อไรที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ได้ที่จะตะคอ กลูก จากคำกล่าวแร งๆของคุณ

อีกทั้งไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย รวมทั้งการเสียงดัง การตะคอ กนั้นมันอาจทำให้

ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี โดยเหตุนี้แล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ เริ่มจากดึงความพอใจ

ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำบอกเล่าง่ายๆให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุดัน

ให้ท่านทดลองเปลี่ยน เป็นบอ กทางป้องกั น แก้ไขปัญหาจะดีกว่านะ นอ กจากคำพูดกับน้ำเสียงแล้ว

ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกฟังมากขึ้น พูดกับเขาดีๆพูดด้วยสายตาที่ความรัก แล้วคุณจะเข้าหัวใจลูกเยอะขึ้นเรื่อยๆ

4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก

ด้วยเหตุว่าบางเวลา สิ่งที่บิดามารดาคิด มันก็มิได้ถูกเสมอหรอกนะ เพราะเด็ กแต่ละคน

พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตนเอง แล้วก็สิ่งที่ควรทำเป็นถามให้ทราบว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร


และก็มีอะไรอยู่ในใจ จากนั้นต้องตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกบอก เพื่อช่วยทำให้ลูกผ่อ นคล า ยความวิตกกังวลได้

5. สอนด้วย การมีกติกา ระหว่างกัน

แต่ทว่านะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ชอบ ที่เกลียดชังของตนเองเช่นกันนะ รวมทั้งหลายครั้ง ที่คุณให้ลูก

ทำสิ่งที่ไม่ชอบ นานกระทั่งลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง และสิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็นเด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยแห่งการต่ อต้ าน

ด้วยเหตุดังกล่าว ลองให้ข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นกติการ่วมกันดูสิ เพื่อลดการโต้เถียงหรือการเชิญทะเล า ะลงได้

6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง

ในตอนวัยเด็ ก เขามักจะลอ กเอาอย่าง พฤติก ร ร มของคนใกล้ชิด

และไม่สามารถจำแนกได้ ว่าอะไรไม่ควร อะไรควรจะ มันจึงทำให้บ่อยลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม

ที่มันไม่ดีของคนแก่ เมื่อถูกว่ากล่าวและก็ต่อว่าลูกจึงไม่รู้เรื่องว่า เพราะอะไรพ่อแม่ยังทำได้เลยล่ะ

รวมทั้งกระบวนการทำให้ลูกเกิดความข้องใจ และพ่อแม่ไม่ชี้แจงนั้น มันก็เป็นสาเหตุ

ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ รวมทั้งสิ่งที่ควรทำนั้น คือ ลูกทำความเข้าใจจาก

ความประพฤติได้ดีมากยิ่งกว่าคำพูด ด้วยเหตุว่างั้น คุณพ่อกับคุณแม่ควรจะเป็นตัวอย่ างให้ลูกมองเห็น ว่าอะไรทำเป็น อะไรไม่ควรทำ

7. สอนลูก ใช้สมอง แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้

เพราะว่าประโยคคำบัญชานั้น มันก็ทำให้ลูกรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้การเอาซะเลยค่ะ

ทำอะไรก็ไม่ดี ทั้งนี้มันก็มีผลต่อให้ลูกปราศจากความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น ทั้งยังอาจกลายเป็นคนไม่มั่นใจไปเลย

ไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆสิ่งที่ควรจะทำนั้น คือ จำเป็นต้องฝึกให้ลูกใช้ความคิดและก็จัดการกับปัญหาด้วยตัวเอง

อาทิเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ และก็ยิ่งกว่านั้นควรจะหา

กิจก ร ร มสนุกสนานๆทำด้วยกันกับลูกเมื่อพ่อกับแม่ มองเห็นลูกทำไม่ถูก


จะได้สอนลูกให้คิดไขปัญหา แทรกเรื่องของคุณความดี จริยธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
ไม่ต่อต้าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12945/