• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนชอบคิดอย่างงี้

Started by deam205, April 05, 2023, 09:18:46 PM

Previous topic - Next topic

deam205

ตอนที่ยังเป็นเด็กนักเรียน คนไม่ใช่น้อยต่างเชื่อเสมอว่าถ้าได้ตั้งมั่นเรียน สอบติดแผนกที่ใช่

ยิ่งได้โอกาสได้งานที่ดี เงินเดือนที่ดี รวมทั้งยิ่งเป็นอาชีพที่คนไหนกันก็รู้จักเช่น เจ้าหน้าที่รัฐ, วิศวกร


นักธุรกิจยิ่งน่าภูมิใจไปใหญ่ เพราะว่านอกเหนือจากค่าตอบแทนรายเดือนที่ได้ ส ม น้ำ ส ม เ นื้ อ มีไม่น้อยเลยทีเดียวพอที่จะเผื่อแผ่


ครอบครัวได้ มีสวัสดิการรองรับให้เป็นสุขยังเป็นอาชีพที่จัดว่า "มีหน้ามีตา" ผู้ใดกันก็ต้อนรับกันหมด

แม้กระนั้นในโลกของเรื่องจริงแล้ว อาชีพที่ "มีหน้ามีตา" ในสังคม ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเสมอไป

แล้วก็ในแต่ละอาชีพ เขาก็มีการกำหนดอัตรารับสมัครแต่ละปีที่ออกจะจำกัดน่ะสิ !

"แล้วจะเรียนไปเพราะอะไร หากสุดท้ายก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย/ งานที่น้อยคนจะรู้จัก/ ค่าจ้างรายเดือนที่ไม่ได้เยอะแยะอะไร ?"

ปัญหานี้จะได้คำตอบที่ เ ค รี ย ด มากเลย เพราะมันเต็มไปด้วยความคาดหมายที่คิดว่า

"เรามีทางเลือกอยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต" แต่หากลองกลายเป็นความนึกคิด "ฉันทำงานอะไรก็ได้


ไม่ว่าจะตรงสายหรือไม่ก็ตาม" มันอาจดูประโยคขี้แพ้ในสายตาบางบุคคล


แม้กระนั้นถ้าคิดๆดูแล้ว มันได้การพอใจ เยอะกว่าการตั้งข้อซักถามแบบแรกเพราะว่าความจริงของชีวิตคือ

1. มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในตัวเอง "ต่างกัน" กันไปพวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งเช่นกันหมด

2. ในรั้วสถานที่เรียน- ม ห า วิ ท ย า ลั ยต่อให้เราได้เรียนกับคุณครูที่เก่งขนาดไหน

ขอบเขตวิชาความรู้มันก็เป็นเพียงแต่ความรู้ในรั้วแค่นั้นโลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังจะต้องทราบเรื่องอีกมาก

ทำความเข้าใจกันอีก ย า ว ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะด้วยเหตุนี้ จะมา ฟั น ธ ง ว่าเรียนมาสายวิทย์

จะต้องปฏิบัติงานสายวิทย์ เรียนสายภาษาต้องดำเนินงานสายภาษา มันก็ผิดเสมอไป

3. มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราจำเป็นจะต้องวิ่งตามหาสิ่งที่ "ใช่"

เบาๆเรียนรู้ ค่อยๆปรับพฤติกรรมไป สิ่งที่พวกเรากำลังบันเทิงใจปัจจุบันนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด

สิ่งที่พวกเราเก่งในขณะนี้ ในในภายหน้า มันบางทีอาจเป็นแค่เพียงความทรงจำ

เพราะเหตุว่าอาจมีหลายสาเหตุให้คิดมากขึ้น ได้แก่ จำเป็นที่จะต้องพับโครงการศึกษาต่อเอาไว้

ด้วยเหตุว่าเงินไม่พอต้องดำเนินงานหาเงินก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยไปเรียนศิลปะที่เราถูกใจ ...

พวกเราจำเป็นต้องมองจังหวะของชีวิตด้วย (ความจำเป็นของชีวิตแต่ละช่วง


4. สิ่งที่พวกเราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันคือ "การหล่อหลอม" หลายวิชามิได้

สอนพวกเราทางตรง แต่ให้พวกเราเบาๆดูดซึมจุดเด่นแต่ว่าอย่างไปเอง อาทิเช่น ฝึกความทรหดอดทน, ฝึกความประณีตบรรจงและละเอียดลออ,

ฝึกความสามารถการเข้าสังคมในกาลครั้งหนึ่งที่พวกเราไม่เห็นคุณประโยชน์ว่าจะใช้อะไรได้จริง พอโตขึ้นอีกหน่อย

มันก็จะต้องมีบ้างล่ะที่พวกเรานึกอะไรขึ้นมาจนถึงจะต้องไปพบ อ่ า น ปัดฝุ่นตำราอีกรอบ

ทุกวิชาความรู้ที่เราได้รับ ไม่เคยสูญเปล่า เพียงแค่เรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกดูให้ดีสิ !

5. มนุษย์เราควรจะมีลู่ทางให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือ "มีแผนในการสำรอง"

เพื่อไม่เป็นการปิ ด กั้ นตัวเองจนถึงเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวุฒิที่เราเรียนมามันหางาน ย า ก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิน้อยกว่านี้หางานไปก่อน?

ถ้าเรามิได้อาชีพนี้ เรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆก่อน?

ความฝันสิ่งที่ใช่ มันไม่สมควรเป็นสิ่งที่ได้ราวกับหัวใจในทันทีทันใดมันเป็นเรื่องธรรมดามากๆที่จำเป็นต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อย

ความ พ ย า ย า ม หลายเท่าตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดหากจะพบว่าทำไม ห ม อ

บางบุคคลถึงเขียนเพลงได้?

ทำไมบางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นศิลปิน?

เพราะอะไรบางคนเรียนไม่จบแม้กระนั้นบรรลุผลสำเร็จ?

ถ้าหากยังไม่เข้าในข้อนี้ ลองย้อนกลับไป อ่ า น ข้อ 4 อีกครั้งขึ้นชื่อว่า "ความรู้" เราได้รับมา

ถึงจะไม่ใช้ในทันทีทันใดก็ไม่สมควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า "ความฝัน" ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้

ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆว่า... "รู้ตัวดีหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่?" แล้วก็

"พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกสถานการณ์ชีวิตรึเปล่า?"

อย่ าลืมว่า...โลกเรากลม รวมทั้งมีหลายมิติ ใช่ว่าต้องมองดูเพียงด้านเดียว
ข้อคิดชีวิต
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13507/