• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้รู้ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by deam205, April 05, 2023, 02:28:30 PM

Previous topic - Next topic

deam205

1. เพราะเหตุว่าพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อปฏิบัติงานอย่ างเดียว

เราไม่ได้ทำงานแล้วแฮปปี้ทุกวี่วัน บ่อยครั้งที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าเกิดเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อาทิเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราชอบจะทำให้อารมณ์เบิกบานขึ้น รวมทั้ง เพิ่มความเชื่อมั่น เพราะการเฟลจากที่ดำเนินการส่วนมากมักทำให้พวกเราเสียกำลังใจ และขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตนเอง สำหรับเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และ อีกมากมาย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย ขมักเขม้นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ในช่วงเวลานี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่เราเคารพนับถือที่สุดในที่ทำงานก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้านาย คนที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยนาๆประการ อย่ างตัวเราเคยพบทั้งๆที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานหนัก ไปจนถึงวันๆไม่ทำการทำงาน คอยสั่งคนนู้นทีคนนี้หน แต่พอใช้ได้มองดูดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่คนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้คร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานเยอะมิได้ยังไง เพราะเหตุใดน่ะหรอ นอกเหนือจากที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองหมั่นไส้แล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความเคารพนับถือด้วย หนำซ้ำบางทีอาจจะพาลกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าเกิดให้เสนอแนะก็อย ากจะบอกว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดีมากยิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนชั่วบ้ า ง นิสัยก็ต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าเห็นว่าพวกเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าถ้าเกิดเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่ใดไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปเจอครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากปฏิบัติงาน ก็อย ากไปเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ แม้กระนั้นแค่ออกหน้าพูดมากแบบพวกเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกถึง

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจะต้องเอางานเราไปพรีเซนเทชั่นกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนใดกันแน่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะแยะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ าเป็นตัวของตัวเองเกินความจำเป็นในโลกอินเตอร์เน็ต

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเชื่อว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่ว่ารู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกเหนือจากที่จะดู resume เราแล้ว ยังมองเ ฟ ส บุ ค ของพวกเราด้วย เพื่อนพวกเราที่เป็น HR รับรองมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า เห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของเรานั้นมีผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างพวกเราเป็นไม่แตะเฟสบุ้คเลย หรือหากจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหากหัวหน้ามามองเห็นก็ไม่เป็นไร


ถ้าอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆชี้แนะให้แยกเฟสที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาลำธารที่พด้วย เนื่องจาก ส่วนใหญ่คนภายในที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่นอน...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา พอใจ เอาใจใส่ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บลู่วิ่งคนอื่นมาอิจฉาริษยา

ตอนปีที่ผ่านมานี้ เพื่อนฝูงพวกเราหลายๆคนเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนเปลี่ยนงานไปงานที่เงินเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตน บางครั้งพวกเราเลื่อนดูหน้าเฟสและก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ก้าวหน้า แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่บอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากยิ่งกว่าพวกเราหรอกดีไม่ดีเพื่อนพ้องหลายๆคนบางทีอาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่พวกเราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี จงจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา ทราบว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร ทราบว่าจุดหมายพวกเราปรารถนาอะไร รู้ว่าวันนี้พวกเราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบมองทางวิ่งบุคคลอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เรามุ่งมั่นกับชีวิตเยอะขึ้น แม้กระนั้นอย่ าเก็บมาตั้งใจจนกระทั่งเป็นกังวลพอเพียง

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

เดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งตระหนกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้หมายความว่า ให้เราไม่ต้องจิรงจิตใจกับคนไหนกัน แต่... หมายความว่า " เราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพวกเล่นพ้อง หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าคนที่เล่นการเมือง (มากๆ) ส่วนใหญ่ไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้เยอะแยะนี่ห้ามเพลี่ยงพล้ำเลยจ๊ะ มีคนคอยซ้ำมากเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่เราดูว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้บอกว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝืนตัวเอง แต่... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ดีว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะมีผลให้เราเหนือกว่ามากๆนอกเหนือจากวางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมถึงบางคนที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยทราบหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปปฏิบัติงานกับผู้ใดกัน ด้วยเหตุนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ว่าในอนาคต บางทีอาจได้วัวรจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดียิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหวังจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงเราจะรู้สึกกดดันสำหรับในการทำงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนถึง 50-60 ก็ผ่านช่วงแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะเสนอแนะเป็น.. ใช้เวลานี้ให้คุ้มค่า เรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าเรื่องมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันห่วยแตกก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกหัดไปเรื่อยโดนดุด่าขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50 มากมาย ถึงจะบกพร่อง ด้วยความยังเด็ก และก็ อ่อนประสบการณ์ คนโดยมากพร้อมจะยกโทษเราเสมอ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ล้มเหลวเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามผิดแผกแตกต่างระหว่าง " สหาย " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็น่าจะจริง สมัยประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม และก็การหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นเท่านั้น และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงหัวใจคนนึงในสถานที่ทำงานมันย ากแค่ไหน


นอกจากจะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์ค่าตอบแทนรายเดือนอย่ างเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาเพื่อนพ้อง ดังนั้นวันๆพวกเราจึงจะพบแค่เพื่อนพ้องร่วมทีม ซึ่งโดยมากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

เราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องเฉพาะบุคคลและเรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็เพื่อนผู้ร่วมการทำงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบนี้ เรามีความรู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดนึงก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเห็น

คุยแลกความเซ็งดีแล้ว ให้เราลองถามตัวเองว่า "หากพวกเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้รับประทานข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " เพื่อนร่วมงาน " ให้พบ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนร่วมงาน " คืออะไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็น่าจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม แล้วก็การหาเพื่อนในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าใด พวกเราจะหาสหายย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงหัวใจคนนึงในสำนักงานมันย ากขนาดไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนเงินเดือนอย่ างเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อนฝูง ด้วยเหตุนั้นวันๆพวกเราก็เลยจะเจอแค่เพื่อนพ้องร่วมกลุ่ม ซึ่งโดยมากรวมทั้งเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน กล่าวได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และเพื่อนร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างนี้ เรารู้สึกว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหน่อยก็ยังดี ) ไม่จำเป็นต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้พบเจอ คุยเปลี่ยนความเซ็งดีแล้ว ให้พวกเราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าหากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในที่ทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ลูกจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย หากอย ากบรรลุความสำเร็จ และก็ มีความสุข ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร " ให้ได้ กล่าวง่ายแม้กระนั้นทำย ากนะ เนื่องจากลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ใส่ใจได้ว่า " เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงงานปริมาณหนึ่ง " ซึ่งก็กล่าวได้ว่าบริษัทเค้าอยากได้อะไรบางอย่ างจากเราแลกกับค่าแรงนั้นๆ

เราต้องรู้ว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ ทำมันให้ดีมากยิ่งกว่าที่บริษัทคาดหวังแม้อยากได้ความรุ่งเรืองในหน้าที่ ถ้าหากงานที่ทำอยู่คิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของพวกเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป


ควรจะหางานที่เราทำแล้วพวกเราเป็นสุขรวมทั้งทำเป็นดีเพื่อดึงความสามารถของตัวเองออกมาให้เยอะที่สุด นอกจากจะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังเป็นเหตุให้พวกเราปรับปรุงตนเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากสุดท้ายพวกเราพบสายอาชีพที่เรารักและอย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมาก

แล้วก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงงานจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานมากเกินกว่าค่าตอบแทนกระทั่งเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ควรมีผลที่ดีตามออกมาด้วย ตัวอย่างเช่นได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูด้านหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ปัจจุบันนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุมากขึ้นแต่ละวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แด่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ตรากตรำหรอก แลกเปลี่ยนกับความสบายของบิดามารดา
ลูกจ้าง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/