ดราม่าคณะครู เข้าพักรีสอร์ต ของหาย ย้ายสินทรัพย์

[kaidee20]

รีสอร์ตดังแชร์อุทาหรณ์ ดราม่าคณะครู! เข้าพักรีสอร์ต ขอแปลงห้องแต่ว่าทำการย้ายเงินทองโดยพลการ และก็ยังพบว่าของหาย แถมตอนเช็กบิล ลั่น! ไม่โอนเงิน

วันที่ 26 เม.ย. 66 กลายเป็นดราม่าเดือดกึกก้องในโลกโซเชียล ชาวเน็ตแห่วิจารณ์กันอย่างมาก เมื่อเพจรีสอร์ตโด่งดัง : "บ้านนาย รีสอร์ท" ได้ออกมาโพสต์แชร์ อุทาหรณ์ผู้เข้าพักมีความกล้าหาญแสบ ย้ายเงินโดยพลการ รวมทั้งยังพบว่าของหาย แถมตอนเช็กบิล ลั่น! ไม่โอนเงิน

โดยทางรีสอร์ตเล่าว่า คืนก่อนหน้านี้มีลูกค้าเป็นกลุ่มคณะครูจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ทำจองห้องไว้เป็นห้องสำหรับ 10 ท่าน 1 ห้อง เเละ ห้องสำหรับ 2 ท่าน 1 ห้อง

ก่อนจะกระทำการ ขอยกเลิกห้องสำหรับ 10 ท่าน กลายเป็นห้องสำหรับ 2 ท่าน ปริมาณ 3 ห้องแทน ซึ่งทางผู้เข้าพักยังมิได้คืนกุญแจห้องสำหรับ 10 ท่านให้กับทางรีสอร์ต ทั้งนี้ทางรีสอร์ตแจ้งว่าเป็นความผิดของทางรีสอร์ตเองที่ไม่ได้เร่งรัดติดตามนำกุญแจคืน
ทางรีสอร์ตฟาดประโยคเชือดเฉือนว่า "เชื่อว่าเลยนะ ว่าฝูงชนที่กำลังให้การศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลานของคนใดกันกลุ่มหนึ่งอยู่ ได้ทำชูฟูกเตียงจากห้องสำหรับ 10 ท่าน ที่ทางคนกลุ่มนั้นได้ยกเลิกไปเเล้ว นำออกไปใช้เป็นเตียงเสริมที่ไม่ได้อยากต้องการชำระเงินในห้อง 2 ท่านของตนเอง

โดยทั้งสิ้นมีเบาะ 2 เตียงด้วยกัน ผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดตัวถูกใช้ทั้ง 5 ผืน ซึ่งหายไปอีก 5 ผืน รวมถึงสิ่งของในห้องที่ผู้เข้าพักกลุ่มดังที่กล่าวมาแล้วยกเลิกไปและจากนั้นจึงนำไปใช้ทั้งหมดทั้งปวง โดยมิได้ขอจากทางรีสอร์ต

โดยทางผู้เข้าพักได้บอกเหตุผลกับทางรีสอร์ตว่า "ก็มองเห็นห้องเปิดอยู่เลยมีความคิดว่าเอามาใช้ได้" เป็นการตั้งใจขนย้ายสินทรัพย์โดยพลการ , ไม่มีการเเจ้งทราบ และ บุกรุกสถานที่ของทางพวกเรา ซึ่งทางรีสอร์ตได้รู้หัวข้อนี้ภายหลังที่คุณครูกลุ่มนี้ได้ออกไปแล้ว


อีกทั้งทางบุคลากรของรีสอร์ตก็ได้คืนเงินมัดจำกุญแจทั้งผองไป โดยมิได้เช็กห้อง เนื่องด้วยผู้เข้าพักกลุ่มนี้เช็กเอ้าท์ออกไปเช้าตรู่ตรู่ ซึ่งในขณะนั้นมีบุคลากรของทางรีสอร์ตอยู่ตามลำพังคนเดียวและกำลังติดภารกิจ ก็เลยไม่ได้ทำวิเคราะห์ห้องพักก่อนลูกค้าออกไป

เมื่อทางรีสอร์ตทราบเรื่องทั้งหมดทั้งปวง จึงติดต่อไปทางผู้เข้าพักกลุ่มดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เพื่อต้องการรู้เรื่องจริง ซึ่ง ฝั่งผู้เข้าพักสารภาพ แต่ไม่ขอรับไม่ถูกชอบอะไรก็ตามทั้งกล่าวว่า "แฟร์ๆหน่อยสิค่ะ ทางเราเอามาใช้ก็จริง เเต่มาทำอย่างงี้ มาบอกว่าเราทำอันโน่นหาย อันนี้หาย เพราะเหตุไรไม่เช็กตั้งเเต่เราออกจากห้อง เเล้วแบบงี้จะมาบอกว่าเป็นความไม่ถูกของทางเรา ที่พวกเราเอาเตียงไปใช้ พวกเราจะขอจ่ายเเค่ค่าเตียงที่เราเอาไปใช้สิ่งเดียว"

ท้ายที่สุดทางรีสอร์ตแจ้งว่า ได้กระทำการคิดค่าห้องเต็มปริมาณ โดยมิได้คิดค่า ผ้าขนหนูแล้วก็ค่ากุญแจที่หายไป เพราะว่าทางรีสอร์ตผิดเองที่มิได้เข้าไปเช็กห้อง เเต่คิดเพียงแต่ค่าห้องที่ลูกค้ามาใช้ห้องของทางรีสอร์ตโดยพลการ ซึ่งลูกค้าก็เห็นด้วยในส่วนนั้นว่าทำจริง เเต่ไม่ขอรับไม่ถูกถูกใจอะไรก็ตาม

ก่อนที่โพสต์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะตบท้ายสุดเดือดว่า "หวังว่าหัวข้อนี้จะช่วยทำให้ผู้ปกครองที่ส่งลูกเรียนกับคนพวกนี้ได้คิดอีกซักนิด ว่าจะส่งลูกหลานไปเรียนสถานศึกษาที่คุณครูทำสิ่งที่ไม่ดีกับคนอื่น เเต่ไม่คิดรับผิดชอบจริงๆไหม"

"เเละขอลงเป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบกิจการท่านอื่นๆให้กระทำการเทรนบุคลากร เเละเข้มงวดกับการตรวจดูห้องเช่าก่อนลูกค้าออกไปด้วยความขมักเขม้นกันด้วย"

ด้านชาวเน็ตวิจารณ์กลุ่มผู้เข้าพักลั่นถึงความกล้าหาญเดือดและก็พฤติกรรมปัดความรับผิดชอบดังที่กล่าวมาข้างต้น เชียร์ให้ทางรีสอร์ตปฏิบัติงานไปทางสังกัด รวมถึงให้กำลังใจทางรีสอร์ตแล้วก็พร้อมช่วยเหลือ
ดราม่า
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13904/